วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สนใจธุรกิจกิฟฟารีนออนไลน์กรอกข้อมูล


อยากทราบรายละเอียดวิธีทำธุรกิจกิฟฟารีน แบบออนไลน์เพิ่มเติม
กรุณาป้อนรายละเอียดของคุณที่นี่เพื่อเราจะได้ส่งข้อมูลให้คุณศึกษาเพิ่มเติม
คำนำหน้า
ชื่อ
นามสกุล
โทรศัพท์มือถือ
email
กรุณาป้อนตัวเลขที่เห็นนี้ 387598

วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เงิน..คือสิ่งชั่วร้าย / เงิน..ทำให้คนร่ำรวยจริงหรือ?

          หนึ่งในความล้มเลวสูงสุดของระบบการศึกษา คือ ความล้มเหลวในการให้ความรู้ทางการเงินแก่เด็กๆของเรา นักการศึกษาบางคนมีมุมมองร้ายๆกับเงิน ไม่ต่างอะไรไปกับลัทธิหรือความเชื่อที่ไม่ดีงาม และที่เลวร้ายที่สุด พวกเขาเชื่อว่า **เงิน** คือ ต้นเหตุแห่งเรื่องร้ายๆทั้งปวงบนโลกใบนี้
         ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ **เงิน** หรอกที่ชั่วร้าย แต่การไม่มีเงินต่างหาก คือต้นเหตุแห่งความชั่วร้าย
          ความชั่วร้าย คือ การที่คุณต้องอดทนทำงานที่คุณไม่ชอบด้วยเหตุผลเพียงเพราะเงิน ทำงานหนักแต่ได้เงินไม่เพียงพอค่าใช้จ่ายในครอบครัว เป็นหนี้สิน ทะเลาะหรือมีปากเสียงกับคนรักด้วยเรื่องเงินๆทองๆ หรือตัดสินใจทำสิ่งที่ผิดกฎหมายและศีลธรรมเพื่อเงิน เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งชั่วร้ายทั้งสิ้น และมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเงินเลย
          .....เพราะ **เงิน** มันก็เป็นแค่ **เงิน** เท่านั้น

----------------------------------------------------------------------------------------
"เงิน"ทำให้คนเราร่ำรวย จริงหรือ???

คำตอบ คือ ไม่ และ ไม่เลย เงิน เพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้ใครรวยได้
          ในทุกๆวัน มีคนมากมายออกไปทำงานหาเงิน พวกเขาเหล่านี้ทำงานหนัก มีรายได้เพิ่มขึ้นทุกปี แต่ก็ไม่สามารถกลายเป็นคนรวยได้ บางรายหนักกว่านั้นเพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ที่หาได้ กลับทำให้พวกเขาเป็นหนี้มากขึ้น หรือบางทีคุณคงเคยได้ยินเรื่องคนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ที่ชีวิตพลิกผันกลายเป็นคนรวยเพียงชั่วข้ามคืน แต่แล้วสุดท้ายก็กลับกลายเป็นคนจนอีกครั้งหนึ่ง ที่ร้ายก็คือ พวกเขาเป็นหนี้ในจำนวนเงินที่มากกว่าเงินรางวัลที่เคยได้ด้วยซ้ำ
          หรือคุณอาจเคยได้ยินเรื่องราวของคนรู้จักที่ถูกธนาคารยึดบ้านไป แทนที่การได้เป็นเจ้าของบ้านของตัวเองจะทำให้พวกเขารวยและมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง แต่เปล่าเลย บ้านหลายๆหลังทำให้เจ้าของมันต้องกลายเป็นคนจน(เป็นหนี้) นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวของนักลงทุนที่สูญเสียเงินมากมายไปกับการลงทุนในตลาดหุ้น แม้กระทั่งลงทุนในทองคำ ที่หลายคนเชื่อกันว่าเป็นทรัพย์สินทรงคุณค่าตลอดกาลก็ตาม ทองคำเองก็เคยทำให้นักลงทุนขาดทุนมาแล้วเหมือนกัน
          ไม่ใช่ทองคำหรือทรัพย์สินอื่นใดหรอกที่มีมูลค่า แต่มันคือข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่เราสนใจต่างหากที่มีมูลค่า กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์ หุ้น กองทุนรวม ธุรกิจ หรือ เงินหรอกที่ทำให้คนเราร่ำรวย แต่ข้อมูล ความรู้ ภูมิปัญญา และทักษะความชำนาญ หรือ เรียกรวมๆ ว่า "ความฉลาดทางการเงิน"ต่างหากที่ทำให้เรามั่งคั่งและร่ำรวย
       

พ่อรวยวิเคราะห์..ตกลงการลงทุนเป็นความเสี่ยงหรือไม่

ตกลงว่าการลงทุนเป็นเรื่องเสี่ยงไหม คำตอบของผม(โรเบิร์ต คิโยซากิ ผู้แต่งหนังสือ พ่อรวย)ก็คือ..แน่นอนว่าไม่เสี่ยง
..ในความเห็นของผม การปล่อยปละละเลยคือ ความเสี่ยง
..ถ้าคุณต้องการเกษียณเร็ว และรวย การเรียนรู้ถึงการป้องกันทรัพย์สินของคุณต่อการสูญเสียหรือขาดทุนเป็นพื้นฐานแรกที่คุณต้องรู้ นักลงทุนทั่วไปคือผู้ไม่ยอมเรียน
....ได้แต่พูดว่าการลงทุนมีความเสี่ยง..นั่นคือเสี่ยงที่สุด
ดังที่ผมได้กล่าวมาแล้ว"ไม่มีประวัติศาสตร์ไหนในโลกที่คนจะฝากอนาคตและความมั่นคงทางการเงินของตนเองให้ไปเสี่ยงกับสภาวะขึ้นและลงของตลาด"ความเสี่ยงเกิดขึ้นเพียงเพราะว่านักลงทุนเหล่านั้นรู้ว่ามันเสี่ยงแต่ไม่ทำอะไรกับความเสี่ยงนั้น
..ดังที่พ่อรวยกล่าว"การลงทุนโดยตัวมันเองแล้วไม่มีความเสี่ยง แต่การปล่อยปละละเลยทางการเงินและการเชื่อฟังคำแนะนำของที่ปรึกษาทางการเงินที่ปล่อยปละละเลยนั้นคือความเสี่ยง"   ไม่เพียงแต่เสี่ยงเท่านั้น แต่มันยังแพงด้วยมันไม่ได้แพงในแง่ของเงินเท่านั้น แต่แพงยิ่งกว่าในแง่ของเวลา
..คนเป็นล้านคนปล่อยชีวิตของตนให้ขึ้นอยู่กับความปลอดภัยและความมั่นคงของงาน แทนที่จะหาอิสรภาพทางการเงินเพราะพวกเขาไม่ใส่ใจ และการไม่ใส่ใจทางการเงินทำให้คนส่วนใหญ่เก็บเงินไว้ในบัญชีดพื่อการเกษียณของพวกเขา และคอยกังวลว่าเงินจะยังอยู่ไหมในเวลาที่เขาต้องการใช้ เพราะการไม่ใส่ใจทางการเงินทำให้คนเป็นล้านใช้เวลามากมายในที่ทำงาน และทำให้คนรวยได้รวยขึ้น แทนที่จะใช้เวลาหาความสุขอยู่กับคนที่เรารัก
....ไม่เลย ผมไม่คิดว่าการลงทุนเป็นความเสี่ยง
....ความเห็นของผมคือ การปล่อยปละละเลยไม่ใสใจทางการเงินต่างหากเป็นเรื่องเสี่ยงและเป็นเรื่องที่แพงอีกต่างหาก

วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ทำไมต้องกิฟฟารีน สไตล์อ.พีรเศรษฐ์ ศรีพลัง




ทำไมต้องทำธุรกิจเครือข่าย ถ้าเป็นธุรกิจเครือข่าย ทำไมต้องกิฟฟารีน 
ฟังมุมมองจาก ผู้บริหารไดมอนด์ แกรนด์พาราไดซ์ อ.พีรเชษฐ์ ศรีพลัง

วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ธุรกิจที่ลงทุนน้อยแต่ทำกำไรมหาศาลให้ทุกคน

          โรเบิร์ต คิโยซากิ ผู้มีชื่อเสียงจากหนังสือ Rich Dad Poor Dad หรือ พ่อรวยสอนลูก  เป็นผู้โด่งดังมากในยุคนี้ ในการแนะนำให้คนเราเข้าใจวิธีการสร้างความร่ำรวยขึ้น จากประสบการณ์ที่เขาได้รับการสั่งสอนจากพ่อของเพื่อนชื่อไมค์ ผู้เป็นนักธุรกิจผู้ที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งในฮาวาย ซึ่งเขาเรียกว่า พ่อรวย โดยที่เขาได้ความรู้เรื่องการเงินจากพ่อแท้ๆของเขาซึ่งเป็นครูซึ่งเขาเรียกว่า พ่อจน เลย  เพราะทั้งสองท่านมีประสบการณ์ต่างกัน พ่อรวยของเขามั่งคั่งขึ้นเรื่อยๆส่วนพ่อจนของเขาแม้สามสามารถเติบโตขึ้นสูงสุดในการทำงานได้เป็นผู้อำนวยการเขตการศึกษา แต่แล้วก็ต้องถูกการเมืองในวงราชการบีบคั้นให้ต้องลาออก หันมาทำธุรกิจส่วนตัวที่ตัวเองไม่เคยศึกษา จึงทำให้ยากจนลงเรื่อยๆแล้วเสียชีวิตไปพร้อมๆกับสภาพนั้น
          จากประสบการณ์การเรียนรู้เรื่องการเงินของเขานัน เขาได้ระบุว่าการหาเงินของคนเรานั้นถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลักๆที่เขาเรียกว่า แคชโฟลว์ควอแดรนต์ (Cashflow Quadrant)หรือ เงิน 4 ด้าน ซึ่งประกอบไปด้วย
           E-Employee  แปลว่า ลูกจ้าง
           S-Self-employed แปลว่า จ้างตัวเอง หรือผู้มีธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องดูแลด้วยตนเอง เช่น หมอที่ทำคลินิก ทนายความที่มีสำนักงานของตัวเอง ช่างที่เปิดร้านซ่อมประเภทต่างๆ นักธุรกิจอิสระประเภทMLM หรือประกันชีวิต ประกันวินาศภัย(ประเภทเครือข่าย) ที่ยังวางมือไม่ได้ เพราะหากวางมือแล้วธุรกิจของตัวเองจะต้องหยุดลง
           B-Business owner แปลว่า เจ้าของธุรกิจ ที่เมื่อเราเป็นเจ้าของแล้ว และไม่ได้ทำอะไร ธุรกิจก้ดำเนินไปได้ด้วยตัวของมันเอง เป็นธุรกิจที่มีระบบชัดเจนและได้ผล เช่น ธุรกิจที่มีคณะกรรมการบริหาร ธุรกิจอิสระประเภท MLM หรือประกันชีวิต ประกันวินาศภัย(ประเภทเครือข่าย)ที่เมื่อเจ้าของหยุดทำ แต่ธุรกิจยังคงเดินหน้าไปได้ด้วยตัวของมันเอง และมีกำไรขึ้นเรื่อยๆ
           I-Investor แปลว่า นักลงทุน ไม่ว่าจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์(อย่างที่เขามีความชำนาญ) ลงทุนในหุ้นส่วนต่างๆไม่ว่าจะเป็น หุ้น พันธบัตร หรือ ร่วมธุรกิจกับคนอื่นๆที่ได้รับผลกำไรตอบแทน
         
          เขาสรุปว่า ผู้ที่ร่ำรวยจริงๆและไม่เหนื่อย จะต้องอยู่ในกลุ่ม B และ  I และเปนผู้ที่มีอิสรภาพทางการเงินและอิสรภาพของเวลาอย่างแท้จริง
           ส่วนผู้ที่ยังอยู่ในวังวนต้องวิ่งแข่งวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้นเหมือนหนูในวังวน(Rat race)อาจจะไม่มีวี่แววของความร่ำรวยเลย หรือไม่มีวี่แววว่าจะหยุดพักผ่อนได้นานๆเลยคือด้าน  E กับ Sและหากตัวเองหยุดทำงานรายได้ก็จะไม่เข้ามา แล้วในที่สุดธุรกิจก็จะหยุดลงได้ ดังนั้น ผู้ที่หวังความร่ำรวยจนกระทั่งถึงระดับมั่งคั่งจริงๆจะต้องหาหนทางเข้าสู้ธุรกิจทั้งสองประเภทคือ  B และ  I นี้ให้ได้
          อย่างไรก็ตาม ผู้ที่อยู่ในกลุ่ม E  และ S  ก็สามารถเปลี่ยนเป็นB  และ  I ได้ หรือทำ B และ I  ไปพร้อมๆกันได้ โดยอาจเริ่มต้นที่เก็บสะสมเงินหรือการทำงานพาร์ตไทม์ในส่วนที่เป็น S  หรือธุรกิจส่วนตัวไปก่อน แล้วขยับขึ้นไปเป็น B  และ  I ในภายหลังเมื่อมีโอกาสเหมาะสม


           ธุรกิจที่ผู้ใหญ่ทางการเงินแนะนำ

           ในหนังสือชุดที่ปรึกษาของพ่อรวย อีกเล่มหนึ่งชื่อ Rich Dad'sThe Business School for People Who Like Helping People หรือ โรงเรียนสอนธุรกิจ  ได้ระบุว่า หนทางหนึ่งที่จะเรียนรู้การเป็นเจ้าของธุรกิจที่ยอดเยี่ยมได้โดยใช้ทุนน้อยเพื่อก้าวเข้าสู้ด้าน B คือ การเป็นเจ้าของธุรกิจอิสระ ในธุรกิจเครือข่าย  หรือ MLM ที่มีระบบดีดี ซึ่งสามารถสอนการเป็นนักธุรกิจของคุณได้ นอกจากนั้น ยังสามารถเก็บเงินเก็บทองทำธุรกิจการลงทุนด้าน  I ไปพร้อมๆกันได้อีกด้วย
     
         เมื่อคุณได้เข้าไปสัมผัสกับธุรกิจนี้แล้ว คุณจะพูดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความจริง การลงทุนในธุรกิจอิสระแบบ MLM นี้จะให้ประโยชน์เป็นเงินจากธุรกิจที่คุณแตกเครือข่ายออกได้หลายชั้น ประกอบกับรางวัลที่เป็นส่วนควบอื่นๆ ที่บริษัทสนับสนุน เช่น ถ้วยเกียรติยศ การท่องเที่ยวต่างประเทศ รถยนต์ ฯลฯ แล้วแต่จะกำหนดเป็นนโยบายของแต่ละบริษัท
         ลักษณะโครงสร้างของธุรกิจ เป็นการลงทุนครั้งเดียวด้วยเงินจำนวนน้อย แต่สามารถสร้างเครือข่ายการขายได้เป้นชั้นๆ และแต่ละชั้นจะให้ผลประโยชน์เป็นเงินแก่ผู้ที่เป็นต้นเครือข่าย เหมือนกับการขยายสาขาของร้านสะดวกซื้อ แต่ต่างกันที่การขยายเหล่านั้นมีเพียงชั้นเดียว แต่การขยายของธุรกิจเครือข่ายมีหลายชั้น จึงเรียกว่า มัลติ-เลเวล(multi-level) 
         วิธีการเป็นนักธุรกิจแบบเครือข่ายนี้ จะทำให้ผู้ที่ตั้งใจทำธุรกิจสามารถขยายเครือข่ายได้มากมาย ทั้งที่ขยายออกไปสู่ต่างจังหวัดในประเทศไทยและขยายต่อเนื่องออกไปสู่ต่างประเทศได้ทั่วโลก โดยที่นักธุรกิจไม่ต้องห่วงกังวลในเรื่องการผลิตสินค้า  การตลาด การแบ่งผลประโยชน์ การสต็อกสินค้า และการป้อนสินค้าแต่อย่างได นั่นเป็นเรื่องของผู้ผลิต เป็นการลงทุนซื้อลิขสิทธิ์ ซื้อธุรกิจ หรือซื้อโค้ดเพียงครั้งเดียว นั่นหมายความว่า เมื่อคุณลงทุนเป็นเจ้าของธุรกิจเพียงครั้งเดียวแล้วสามารถขยายเครือข่ายได้มากมาย คุณก็จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนอย่างมหาศาลได้ แล้วในที่สุดเมื่อเครือข่ายของคุณขยายและดำเนินต่อไปเอง ไม่ว่าจะกี่ร้อย กี่พัน กี่หมื่น กี่แสน หรือกว่ากี่ล้านโค้ดที่ตามมา คุณก็จะสามารถหยุดทำงานและปล่อยให้ธุรกิจดำเนินไปเองได้ เท่ากับคุณได้เลื่อนมาอยู่ในด้านขวาที่เป็นด้าน Bได้ในที่สุด

" คนที่รวยที่สุดในโลกมองหาวิธีการการสร้างเครือข่าย  ในขณะที่คนอื่นๆมองหางานทำ "

การเป็นเจ้าของธุรกิจอิสระ ในธุรกิจเครือข่าย  หรือ MLM ที่มีระบบดีดี ซึ่งสามารถสอนการเป็นนักธุรกิจของคุณได้ ในที่นี้ ขอแนะนำ ธุรกิจเครือข่าย บริษัทชั้นนำของประเทศไทย มีความมั่นคงสูง มีแผนการตลาดที่จ่ายผลประโยชน์แก่ผู้ร่วมธุรกิจถึง 47 เปอร์เซ็นต์ มีสินค้าหลากหลายมากกว่า 2000 รายการ ครอบคลุมทุกระดับ มีศูนย์บริการทั่วประเทศกว่า 100 แห่ง 


     

วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555

พ่อรวย..พูดถึงการตลาดแบบเครือข่ายและธุรกิจขายตรง

              ธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายและธุรกิจขายตรง เป็นธุรกิจที่คนมากมายเห็นว่าเป็นรูปแบบธุรกิจที่เติบโตได้รวดเร็วที่สุดในโลกปัจจุบัน แต่ก็เป็นธุรกิจที่มีข้อถกเถียงมากที่สุดเช่นกัน หลายครั้งยังมีปฎิกิริยาเป็นลบ อ้างว่าองค์กรธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายหลายรายเป็นกลโกงแบบพีระมิด แต่ในที่จริงแล้ว สภาพพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ก็คือ องค์กรธุรกิจแบบปกติที่มีคนเพียงคนเดียวอยู่ในตำแหน่งบนสุด โดยมีคนมากมายทำงานให้กับเขา

             ใครก็ตามที่ต้องการจะเป็นเจ้าของธุรกิจ ควรลองศึกษาธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายดูบ้าง ธุรกิจที่อยู่ในรายชื่อ Fortune 500 บางราย Citybank ,Avon ,Levis  Smith Barney กระจายสินค้าของเขาผ่านระบบการตลาดแบบเครือข่ายหรือระบบการขายตรง

             เราไม่ได้เป็นสมาชิกของธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายหรือธุรกิจขายตรงรายใด แต่เราพูดในทางที่ดีถึงธุรกิจนี้ ใครก็ตามที่ต้องการจะเป็นเจ้าของธุรกิจ ควรจะคิดถึงการเข้าร่วมธุรกิจเหล่านี้รายใดรายหนึ่งก่อนที่จะลาออกจากงาน เหตุผลก็คือ บริษัทเหล่านี้หลายรายให้การอบรมที่สำคัญเกี่ยวกับการขาย การสร้างธุรกิจ และทักษะความเป็นผู้นำ ที่ไม่สามารถหาพบได้ที่อื่น ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดจากการรู้จักกับองค์กรที่มีชื่อเสียงคือ พวกเขาจะสอน แนวความคิด  และ ความกล้า  ที่จำเป็นต่อการเป็นเจ้าของธุรกิจ และคุณก็จะได้รู้จักระบบต่างๆ ที่จำเป็นในการสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น ส่วนใหญ่แล้ว ค่าสมัครเข้าร่วมนั้นไม่แพงเกินไป และความรู้ที่มีให้นั้นไม่สามารถประเมินค่าได้(คุณค่าของความรู้ที่ได้จากธุรกิจนี้ อธิบายไว้ในหนังสือชื่อ โรงเรียนสอนธุรกิจ -The Business School for People Who Like Helping People)

             ถ้าหากผมจะต้องเริ่มกระบวนการเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของธุรกิจใหม่อีกครั้ง ผมจะเริ่มต้นกับธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายหรือธุรกิจขายตรง ไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องการฝึกฝนกับโลกธุรกิจจริงที่ผมอาจจะได้รับ ซึ่งเป็นการฝึกฝนที่พ่อรวยได้ให้กับผม

วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

ความเป็นมาของไอ้แป๊ก..คนไทยที่อายุน้อยที่สุด..และเก่งที่สุดในโลก

แล้วที่บอกว่า..เป็นคนไทยที่อายุน้อยที่สุด..และเก่งที่สุดในโลก..
ความเป็นมายังไงครับ...

เมื่อผมได้ Platform การทำธุรกิจเป็นของตนเองแล้ว
การจะประสบความสำเร็จระดับโลก..มันต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก
และผมไม่มีเงินทุนขนาดนั้น..อยากจะพูดว่า..ไม่มีเงินเลย...
ก็มานั่งคิดวางแผนว่า..จะทำยังไงธุรกิจเราถึงจะประสบความสำเร็จระดับโลก..
โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก...

สุดท้ายตัดสินใจ..ร่วมธุรกิจ..กับบริษัทที่มีเครือข่ายธุรกิจที่ใหญ่ที่สุด..
และมียอดขายสูงที่สุดในโลก..

ผมมีธุรกิจทั่วโลก และประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ
ในทุกๆประเทศ..
การประสบความสำเร็จในระดับนี้ และวัยเพียงเท่านี้ทำให้..
เป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในโลก..ที่ได้ตำแหน่งนี้..

คุณสมคิดเห็นวันที่บริษัทฉลองตำแหน่งให้ผมก็ตื่นเต้น...น้ำตาไหล..
บอกว่าคนไทย..มันต้องได้อย่างนี้..
มันต้องเก่งที่สุดในโลก..มันต้องเก่งกว่าฝรั่ง..

คุณสมคิดบอกว่า..
ผมเป็นPartner ทำธุรกิจ ในบริษัทที่ทำธุรกิจเครือข่าย ที่มียอดขายสูงที่สุดในโลก..
และประสบความสำเร็จ..โดยอายุน้อยที่สุดในโลก..
จึงเป็นนักธุรกิจเครือข่าย..คนไทย..ที่อายุน้อยที่สุด..และเก่งที่สุดในโลก..
เป็นความภาคภูมิใจของคุณสมคิด..ที่อยากจะบอกคนทั้งโลกว่า..
คนไทย..ก้เก่งที่สุดในโลกได้..ในธุรกิจที่เป็นอินเตอร์..ที่เป็นมาตรฐานโลก..
ซึ่งผมก็ยังเขินๆอยู่ที่จะใช้คำนี้..

และผมยังเป็นนักธุรกิจเครือข่ายคนแรกของไทย...
ที่ประสบความสำเร็จระดับสูงในอเมริกา...


..และนี่คือแรงบันดาลใจส่วนหนึ่ง ที่ทำให้หลายคนที่ไม่มีเงินทุน ในการสร้างธุรกิจ ได้ฉุกคิด ถึงการเริ่มธุรกิจที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากก็สามารถประสบความสำเร็จรวยเป็นร้อยล้าน พันล้าน ได้..


จากธุรกิจเครือข่าย... ขายตรง ...




อยากทราบรายละเอียดวิธีทำธุรกิจกิฟฟารีน แบบออนไลน์เพิ่มเติม
กรุณาป้อนรายละเอียดของคุณที่นี่เพื่อเราจะได้ส่งข้อมูลให้คุณศึกษาเพิ่มเติม
คำนำหน้า
ชื่อ
นามสกุล
โทรศัพท์มือถือ
email
กรุณาป้อนตัวเลขที่เห็นนี้ 387598

ประเด็นสำคัญของหนังสือ..ไอ้แป๊ก..คนไทยอายุน้อยที่สุด..และเก่งที่สุดในโลก

ประเด็นสำคัญของหนังสือเล่มนี้..คืออะไรครับ..

ประเด็นสำคัญในหนังสือเล่มนี้
(ไอ้แป๊ก.. คนไทยที่อายุน้อยที่สุด..และเก่งที่สุดในโลกของ คุณ สมคิด ลวางกูร)
ผมพูดถึง Re-thought ครับ..
Re-thought คือ การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ เพื่อความสำเร็จของชีวิต
ปัจจุบัน..โลกมันเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก และเร็วมาก...
มันเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโลก...แบบกลับด้านเลย..
เพราะฉะนั้นวิธีการเดิมๆที่รุ่นพ่อรุ่นแม่เรา เคยใช้ทำมาหากิน
เคยใช้สร้างตัวสร้างความสำเร็จเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว....
ปัจจุบันมันใช้สร้างชีวิตไม่ได้แล้ว
โลกเปลี่ยน...วิธีการจ้างงานเปลี่ยน..วิธีการทำธุรกิจเปลี่ยน..วิธีการดำเนินชีวิตเปลี่ยน..
ค่าครองชีพเปลี่ยน..ทุกอย่างเปลี่ยนหมด..

ถ้าเราไม่เปลี่ยนวิธีคิด..ไม่เปลี่ยน Platform ในการดำเนินชีวิต
ประสบความสำเร็จยาก...รวยยาก..
โลกปัจจุบัน คน 100 ล้านคน หารายได้สู้คน 4-5หมื่นคนที่มีคุณภาพไม่ได้
..ไมโครซอฟท์ มีพนักงาน 4-5 หมื่นคน แต่ทำรายได้มากกว่าประชากร 3 ประเทศรวมกัน
โลกวันนี้..มันเป็นโลกของ..เศรษฐกิจ..ฐานความรู้..ใครรู้เร็ว..รู้ก่อน..และรู้มากกว่า
จะรวยและประสบความสำเร็จก่อนใครๆ...

การทำธุรกิจในโลกยุคใหม่..คุณภาพ..สำคัญที่สุด..
ถ้าอยากรวย..อยากประสบความสำเร็จ..
เราต้องพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่มีคุณภาพ...
และปรับความคิดของเรา..ให้โตทันโลก..
ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก..
คือต้องเปลี่ยนทุกอย่างในกะโหลก..ในสมองเราใหม่หมดเลย

พ่อแม่สอนเรื่องการสร้างชีวิต...ของไอ้แป๊ก

พ่อแม่สอนเรื่องการสร้างชีวิต...ของ
ไอ้แป๊ก  คนไทยที่อายุน้อยที่สุด..และเก่งที่สุดในโลก


แม่ผมเป็นลูกคนจีน..พ่อผมลูกคนไทย..
ผมเลยถูกเลี้ยงมาทั้ง 2 แบบ ทั้งไทย ทั้งจีน
แม่ตามใจ.. ก๋งสอนให้ขยันค้าขาย..
เรียนจบธรรมศาสตร์ใหม่ๆ แม่อยากให้ไปทำงานบริษัทใหญ่ๆ
 บริษัทที่ยิ่งใหญ่ระดับท็อปของประเทศ
เขาให้เงินเดือน 26000 บาท โอ้โห...เยอะมาก...ไฮโซสุดๆ...
กำลังนั่งกันอยู่ ..ก๋งได้ยิน..เรียกผมเข้าไปหา..แล้วถามว่า..
แป๊ก..แขนข้างขวามึงข้างหนึ่งเนี่ย..มึงขายเท่าไหร่วะ...
10 ล้านขายไหม...?
จะบ้าเหรอก๋ง..แขนข้างหนึ่ง 10 ล้านใครจะไปขาย...
งั้นก๋งให้มึง 100 ล้าน...มึงขายไหม..?.
ไม่ขาย...ให้เท่าไหร่ก็ไม่ขาย..ใครจะบ้าขายแขนตัวเอง...


แป๊ก...แขนขวาข้างหนึ่ง...100 ล้าน มึงไม่ขาย
..แต่ตอนนี้ มึงจะเอาทั้งตัวและสมองที่กูส่งมึงเรียน 
ไปให้เขาเช่า เดือนละ 26000 บาท
มึงคิดว่า มันคุ้มไหม...??


แป๊ก..การปลูกต้นแอปเปิ้ลในที่ของคนอื่น...
มันสู้ปลูกต้นตะขบ ในที่ของตัวเองไม่ได้
การไปเป็นลูกจ้างเขา ก็เหมือนกับปลูกต้นแอปเปิ้ลในที่ของคนอื่น
พอเราออกมาแล้ว..อยากกินแอปเปิ้ล เราต้องไปซื้อเขา
ซื้อแอปเปิ้ลที่เราปลูกมากับมือเราเอง...


การค้าขาย..หรือการทำธุรกิจของเราเอง..
มันเหมือนการปลูกต้นตะขบในที่ของเราเอง
ถึงแม้รายได้มันจะไม่มากเท่ากับที่เราไปทำงานในบริษัทใหญ่..
แต่รายได้ทั้งหมดเป็นของเราคนเดียว..ไม่ต้องแบ่งใคร
..และถ้าธุรกิจการค้าของเราประสบความสำเร็จใหญ่โต..
ลูกหลานเราก็มาเก็บดอกผลเอาไปกินไปใช้ได้ทั้งตระกูล..มึงเอาไปคิดให้ีดี


ผมฟังเสร็จ..ช็อกเลยครับ..
ก๋งผมจะสอนอยู่ 2 เรื่อง คือต้องขยันและค้าขายเป็น
ผมจึงต้องตื่นแต่เช้าและออกไปขายของตั้งแต่ยังเด็ก..
โลกปัจจุบันนี้ถ้าเราไม่มีความรู้เรื่องการตลาด..เรื่องการค้าขาย..
ชีวิตประสบความสำเร็จยาก..
ร่ำรวยยาก..
สร้างชีวิตยาก..




เรื่องราวบางส่วนของ ไอ้แป๊ก..คนไทยอายุน้อยที่สุด..และเก่งที่สุดในโลก

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

รับสมัครตัวแทนขายกิฟฟารีนทั่วประเทศ

อยากทราบรายละเอียดวิธีทำธุรกิจกิฟฟารีน แบบออนไลน์เพิ่มเติม
กรุณาป้อนรายละเอียดของคุณที่นี่เพื่อเราจะได้ส่งข้อมูลให้คุณศึกษาเพิ่มเติม
คำนำหน้า
ชื่อ
นามสกุล
โทรศัพท์มือถือ
email
กรุณาป้อนตัวเลขที่เห็นนี้ 387598

วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

ทำไมต้องกิฟฟารีน ภาค 2

          ภาค 1 ผ่านไป...เป็นเรื่องราวที่กล่าวถึงว่าทำไมตัวเราเอง...ต้องเลือกใช้สินค้ากิฟฟารีนจนกลายมาเป็นความรู้สึกที่อยากทำธุรกิจร่วมกับกิฟฟารีน มีอะไรน่าสนใจจากการคิดกรั่นกรองของคนที่ไม่เคยคิดขายอะไรเลย ขายไม่เป็น เคยแต่เป็นผู้บริโภคตลอดมา

         ภาค 2 จะเป็นมุมมองของคนอื่น คนส่วนใหญ่ คนทั่วๆไป ที่มองกิฟฟารีน โดยผ่านมุมมองของเราเอง

ทำไมหลายๆคนจึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กิฟฟารีน เลือกที่จะทำธุรกิจเครือข่ายกับกิฟฟฟารีน ทั้งที่ในปัจจุบันธุรกิจเครือข่ายได้เกิดขึ้นมากมาย หลากหลายให้เลือก

1.ผลิตภัณฑ์ได้รับการยอมรับ เป็นยี่ห้อติดตลาดมาเป็นเวลานานแล้ว
2.ระบบเครือข่ายที่มีคุณภาพ มีหลักเกณฑ์ต่างๆที่มีความเป็นไปได้ในการดำเนินธุรกิจจริง
3.ไม่ต้องขายผลิตภัณฑ์มาก สินค้ามีคุณภาพในตัวมันเองอยู่แล้ว
4.มีสินค้าหลากหลายให้เลือกใช้ ในราคาไม่แพงจนเกินไป
5.ไม่ต้องขายผลิตภัณฑ์มาก รายได้ในการทำธุรกิจเกิดจากการซื้อสินค้าใช้

โดยใช้หลักการ


เปลี่ยนรายจ่าย เป็นรายรับ


เปลี่ยนกิจวัตร เป็นกิจการ



ความสวยงามของธุรกิจกิฟฟารีน

           กิฟฟารีน ...ดำเนินธุรกิจในรูปแบบขายตรง ความสวยงามของธุรกิจขายตรง คือ การให้ความช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาดูแลกันและมิตรภาพที่เปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกัน เหมือนพี่ เหมือนน้อง เหมือนเพื่อนสนิท ระหว่างผู้แนะนำธุรกิจ (อัพไลน์) และผู้สืบทอดธุรกิจ ผู้สานต่อธุรกิจ(ดาวน์ไลน์)

           ดังนั้น หากผู้ที่สนใจจะสานต่อธุรกิจ(ดาวน์ไลน์)หรือมีแนวร่วมเดียวกันกับผู้แนะนำแล้ว จากการที่ถูกใจข้อความในบล็อกนี้ เห็นดีเห็นงามกับเรื่องราวที่บล็อกนี้นำเสนอ


           ไม่ว่าคุณจะไปสมัครสมาชิก กิฟฟารีน ที่ศูนย์ธุรกิจใด ด้วยวิธีไหน

           อย่าลืมชื่อและรหัสผู้แนะนำนะคะ


           ศิริญญา ประกิระสา
           รหัสกิฟฟารีน 13132508

       
           มันอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะบังเอิญมาเจอกัน ถูกใจกัน มีความคิดเหมือนๆกัน และได้ก้าวไปด้วยกันในโลกกลมๆใบนี้   หวังว่าเราจะมีโอกาสได้เป็นครอบครัวเดียวกัน คอยดูแลกันนะคะ       
            ดังคำกล่างของครอบครัวกิฟฟารีนบ้าน ยูแคนดู ที่ว่า

              ''  สร้างธุรกิจ ด้วยมิตรภาพ ''
อยากทราบรายละเอียดวิธีทำธุรกิจกิฟฟารีน แบบออนไลน์เพิ่มเติม
กรุณาป้อนรายละเอียดของคุณที่นี่เพื่อเราจะได้ส่งข้อมูลให้คุณศึกษาเพิ่มเติม
คำนำหน้า
ชื่อ
นามสกุล
โทรศัพท์มือถือ
email
กรุณาป้อนตัวเลขที่เห็นนี้ 387598

วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555

อยากเป็นนักธุรกิจกิฟฟารีนแต่ขาย...ไม่เป็น

             อยากเป็นนักธุรกิจแต่ขายไม่เป็น

             ใครเป็นอย่างนี้ก็เหมือนกันเลยค่ะ

-  ตั้งแต่เกิดมา พ่อ แม่ พี่ น้อง ก็เป็นข้าราชการหมด เรียกได้ว่าตระกูลข้าราชการก็ว่าได้ จะให้ไปหาลูกค้า เชิญชวนให้มาซื้อของเรา ไม่เคยมีในเมมโมรี่

-  ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยขายอะไรเลย ซื้ออย่างเดียว... อยู่ดีดีจะให้มาขายของ ตื้อคน ไปประชุม สัมมนาทางธุรกิจ มันไม่ใช่...มันไม่ใช่...มันไม่ใช่ ตัวตนของฉ๊านนน.....ทำไม่ได้แน่ๆ

-  ปกติเป็นคนโลกส่วนตัวสูง พูดไม่เก่ง จะให้ไปมีตติ้ง นั่งดริ๊งค์ นั่งคุยกับลูกค้า นำเสนอแผนธุรกิจ แผนการตลาด โอ๊ย...ตาย..ตายแน่ๆ ทำไม่ได้ชัวร์ ....สารพัดข้อจำกัด

แล้วอะไรล่ะที่ทำให้เราคิดว่าจะเป็นนักธุรกิจ กิฟฟารีน ได้.....
เพราะมีประเด็นสำคัญ ประเด็นหนึ่งที่ทำให้ฉีกสารพัดข้อจำกัดในอดีต ก็คือ

ในปัจจุบันมีกิฟฟารีนออนไลน์ ทำงานจากที่บ้าน แค่มีอินเตอร์เน็ต เฟซบุค อีเมล ก็บอกต่อลูกค้าได้
.....ไม่ต้องไปประชุมไกล ๆ แผนการตลาดก็ศึกษาเองได้
.....จิบกาแฟ เปิดเน็ทแค่นี้ก็เป็นนักธุรกิจได้...

               สำหรับเรา เล่นเน็ท เฟซบุค เช็คเมลทุกวันอยู่แล้ว นี่จึงเป็นวิธีการทำธุรกิจที่โดนใจมาก
เป็นการเปลี่ยนกิจวัตร เป็นรายได้

               อ่านมาถึงตรงนี้ ใครมีวิถีชีวิตแบบนี้ สไตล์คล้ายๆกัน ก็น่าจะลองเข้าร่วมธุรกิจกับเรานะคะ

               อย่างน้อยความฝันของหลายๆคน ที่อยากเป็นนักธุรกิจ การเริ่มต้นด้วยธุรกิจขายตรงกับกิฟฟารีนบริษัทชั้นนำของโลกที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานอาจเป็นจุดเริ่มต้นของ " นักธุรกิจพันล้าน "  ก็เป็นได้นะคะ

อยากทราบรายละเอียดวิธีทำธุรกิจกิฟฟารีน แบบออนไลน์เพิ่มเติม
กรุณาป้อนรายละเอียดของคุณที่นี่เพื่อเราจะได้ส่งข้อมูลให้คุณศึกษาเพิ่มเติม
คำนำหน้า
ชื่อ
นามสกุล
โทรศัพท์มือถือ
email
กรุณาป้อนตัวเลขที่เห็นนี้ 387598

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555





อยากทราบรายละเอียดวิธีทำธุรกิจกิฟฟารีน แบบออนไลน์เพิ่มเติม
กรุณาป้อนรายละเอียดของคุณที่นี่เพื่อเราจะได้ส่งข้อมูลให้คุณศึกษาเพิ่มเติม
คำนำหน้า
ชื่อ
นามสกุล
โทรศัพท์มือถือ
email
กรุณาป้อนตัวเลขที่เห็นนี้ 387598